Browse By

Tag Archives: พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

กุนซือ แมนฯ ซิตี้ ชื่นชมทีมว่าเล่นได้อย่างโดดเด่นในครึ่งแรก

ค่ำคืนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนามจีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม เป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนบอลทั่วโลกจับตา เมื่อแชมป์เก่าอย่าง แมนฯ ซิตี้ บุกมาเยือนเบรนท์ฟอร์ด ทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องความเหนียวแน่นและเล่นในบ้านได้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง เกมนี้ “เรือใบสีฟ้า” ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการสามคะแนนเพื่อไล่จี้ลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อลในเส้นทางลุ้นแชมป์ และพวกเขาก็ทำได้ตามเป้าหมาย เมื่อเฉือนชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูของเออร์ลิง ฮาแลนด์ ในช่วงครึ่งหลัง แต่สิ่งที่กลายเป็นประเด็นหลังจบเกมไม่ใช่เพียงผลการแข่งขัน หากเป็นคำชื่นชมของเป๊ปที่กล่าวถึงฟอร์มการเล่นของลูกทีมในครึ่งแรกว่า “โดดเด่นอย่างที่สุด” และคำพูดนั้นมีความหมายมากกว่าที่เห็น หากใครได้ชมเกมนี้ตลอด 90 นาทีจะเข้าใจทันทีว่าทำไมกวาร์ดิโอล่าถึงพอใจในฟอร์มการเล่นครึ่งแรกของลูกทีม แม้จะยังไม่มีประตู แต่รูปแบบการครองเกม การสร้างสรรค์โอกาส และการคอนโทรลคู่แข่งนั้นแทบสมบูรณ์แบบในแบบฉบับฟุตบอลของซิตี้ พวกเขาครองบอลมากกว่า 70% ในช่วงครึ่งแรก และแทบจะไม่ปล่อยให้เบรนท์ฟอร์ดได้หายใจคล่องเลย เกมไล่บีบของซิตี้ในแดนหน้าและแดนกลางมีประสิทธิภาพสูง การเคลื่อนที่ของผู้เล่นแต่ละคนสอดประสานกันอย่างยอดเยี่ยมจนเจ้าถิ่นไม่สามารถต่อบอลเกินสามจังหวะได้ หนึ่งในจุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือการจัดระบบของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เลือกใช้จอห์น สโตนส์ ขยับขึ้นมาช่วยคุมเกมตรงกลางร่วมกับโรดรี ทำให้ซิตี้มีผู้เล่นที่สามารถเชื่อมระหว่างเกมรับและเกมรุกได้อย่างไหลลื่น

เบรนท์ฟอร์ด 0 – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1: เรือใบสีฟ้าเฉือนหืดแต่เก็บสามแต้มสำคัญ

ค่ำคืนของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เต็มไปด้วยความเข้มข้นเมื่อเบรนท์ฟอร์ดเปิดบ้านรับการมาเยือนของแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้กลายเป็นบททดสอบสำคัญของทั้งสองทีม ฝั่งเจ้าถิ่นต้องการคะแนนเพื่อขยับหนีโซนตกชั้น ส่วนทีมเยือนของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการชัยชนะเพื่อรักษาเส้นทางลุ้นแชมป์กับคู่แข่งอย่างลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อลให้คงอยู่ต่อไป แม้รูปเกมตลอด 90 นาทีจะเต็มไปด้วยจังหวะบุกของซิตี้เกือบทั้งหมด แต่กว่าที่พวกเขาจะได้ประตูชัยก็ต้องรอจนถึงช่วงท้ายเกม เรือใบสีฟ้าเอาชนะไปแบบเฉือนหืด 1-0 พร้อมเก็บสามแต้มอันล้ำค่าได้สำเร็จ ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างชัดเจน พวกเขาครองบอลเหนือกว่าอย่างเบ็ดเสร็จในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ การต่อบอลสั้นแม่นยำ ไล่บีบพื้นที่ตั้งแต่แดนกลางจนถึงกรอบเขตโทษของเบรนท์ฟอร์ด ทำให้เจ้าบ้านแทบไม่ได้ครองบอลมากนัก อย่างไรก็ตาม เบรนท์ฟอร์ดซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่เล่นในบ้านได้แข็งแกร่ง กลับตั้งรับได้อย่างมีระเบียบ พวกเขาอาศัยการจัดแนวรับแน่นหนาและความแข็งแกร่งของแนวหลังในการต้านทานเกมรุกที่ไหลบ่าของซิตี้ แนวรุกของแมนฯ ซิตี้ในเกมนี้นำโดยเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่กลับมาลงสนามเต็มตัวหลังหายจากอาการบาดเจ็บ ขนาบข้างด้วยฟิล โฟเด้น และเจเรมี โดกู ที่สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับเจ้าถิ่นได้ตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะโดกูที่ใช้ความเร็วและความคล่องตัวเจาะริมเส้นฝั่งซ้ายได้หลายครั้ง แต่การเข้าทำขั้นสุดท้ายของทีมเยือนยังขาดความเฉียบคม ไม่ว่าจะเป็นจังหวะยิงเฉียดเสาไปนิดเดียวของโฟเด้น หรือการโขกหลุดกรอบของฮาแลนด์ในครึ่งแรก ทำให้ครึ่งเวลาแรกจบลงด้วยสกอร์ 0-0 ขณะที่ฝั่งเบรนท์ฟอร์ดเองก็ไม่ได้เน้นเพียงแค่การตั้งรับ พวกเขามีจังหวะสวนกลับที่อันตรายหลายครั้ง